รู้ทัน! อาการปวดขาเตือนบอกโรค อาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม

รู้ทัน! อาการปวดขา เตือนบอกโรค อาการปวดที่ไม่ควรมองข้าม ก่อนสายเกินแก้

สารบัญเนื้อหา

ปวดขาบ่อย เพราะอะไร

อาการ ปวดขา เป็นปัญหาที่พบบ่อยในคนทุกวัย อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เกิดจากการบาดเจ็บ การเจ็บป่วยจากโรคบางชนิด หรือภาวะทางการแพทย์ ซึ่งอาการปวดขาอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ บางคนอาจรู้สึกไม่สบายที่ขา ในขณะที่บางคนอาจมีอาการปวดอย่างรุนแรง ซึ่งทำให้การเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันทำได้ยากลำบาก

อาการปวดขาที่พบบ่อย เรียกว่า Shin Splints หรือที่เรียกว่า กล้ามเนื้อหน้าแข้งอักเสบ นี่คืออาการที่กล้ามเนื้อกระตุกในบริเวณกระดูกหน้าแข้งและทำให้เกิดอาการปวดเจ็บสียวเมื่อเดินหรือวิ่ง สาเหตุทั่วไปของโรคที่เกิดจากการปวดขา ได้แก่ โรคข้ออักเสบ โรคเกาต์ อาการปวดสะโพกและโรคข้อเข่าเสื่อม

วิธีบรรเทาอาการปวดขา

มีวิธีการรักษามากมายสำหรับการบรรเทาอาการปวดขาที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง

  • ลองนวดบริเวณที่เจ็บ
  • หยุดพักกิจกรรมที่ส่งผลต่อการปวดขา เช่น การออกกำลังกายที่หนักเกินไป
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เป็นประจำทุกวัน อย่างน้อย 8 แก้ว
  • ใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่เจ็บ ลดอาการบวมตึงจากอาการบาดเจ็บ 4 ครั้งต่อวัน เป็นเวลา 15 นาที
  • อาบน้ำอุ่นเพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อ

สัญญาณเตือนอันตรายที่ควรพบแพทย์ทันที


  • ปวดจนไม่สามารถเดินเองได้
  • เจ็บหรือปวดต้นขามาก มีอาการบวมแดงอย่างเห็นได้ชัด ขยับไม่ได้
  • มีเสียงเปราะดังเกิดขึ้น ขณะได้รับอุบัติเหตุ
  • มีบาดแผลรุนแรง เช่น ถูกของมีคมบาดจนเห็นเส้นเอ็นหรือกระดูก

วิธีบำรุงกระดูกขาแข็งแรง

มนุษย์ประกอบด้วยกระดูก 206 ชิ้น ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ซับซ้อนที่สุดชนิดหนึ่งในร่างกาย กระดูก คือ เนื้อเยื่อที่มีชีวิตซึ่งมีการเปลี่ยนแปลง เติบโต และหดตัวตลอดเวลา ประกอบด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุอื่นๆ ร่างกายมนุษย์มีแคลเซียมเกือบ 99% ซึ่งเป็นของแคลเซียมอยู่ในกระดูกและฟัน การทานสารอาหารที่เสริมแคลเซียมนอกจากจะเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ยังช่วยให้ห่างไกลโรค ลดอาการปวดจากโรค เช่น โรคข้ออักเสบ โรคเข่าเสื่อม โรครูมาตอยด์ และโรคกระดูกพรุนในอนาคต

คำแนะนำ :

ควรหมั่นทานแคลเซียมเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ และเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น ยาเม็ดแคลเซียม น้ำมันงาดำ