อาการของโรคเกาต์และตัวกระตุ้น
โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบชนิดหนึ่งที่เกิดจากการสะสมของผลึกกรดยูริกในข้อต่อ สิ่งนี้สามารถนำไปสู่ความเจ็บปวด บวม และตึงในข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่เท้า โรคเกาต์เป็นภาวะเรื้อรังที่สามารถจัดการได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสมและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต
อาการของโรคเก๊าท์ที่พบบ่อยได้แก่
- ปวดข้ออย่างรุนแรงโดยเฉพาะตอนกลางคืนหรือตอนเช้า
- อาการบวม แดง และร้อนในข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ
- ข้อต่อแข็งและเคลื่อนไหวลำบาก
- ความอ่อนโยนหรือความเจ็บปวดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
- จำกัด การเคลื่อนไหวในข้อต่อที่ได้รับผลกระทบ
อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและอาจรุนแรงมาก โดยมักทำให้คนตื่นขึ้นกลางดึก อาการปวดและบวมอาจคงอยู่เป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ก่อนที่จะบรรเทาลง ในบางกรณี อาการของโรคเกาต์อาจไม่รุนแรงและอาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเท่านั้น
ตัวกระตุ้นบางอย่างสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการของโรคเกาต์ได้ เหล่านี้รวมถึง
- บริโภคอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เนื้อเครื่องใน ปลาแองโชวี และปลาซาร์ดีน
- การดื่มสุรา โดยเฉพาะเบียร์และสุรา
- มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
- มีความดันโลหิตสูง
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะและไนอะซิน
หากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคเกาต์ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง แพทย์ของคุณอาจสั่งการตรวจเลือดเพื่อตรวจหากรดยูริกในระดับสูงและอาจตรวจข้อต่อที่ได้รับผลกระทบด้วย
การรักษาโรคเก๊าท์โดยทั่วไปรวมถึงการใช้ยาเพื่อลดอาการปวดและการอักเสบ และลดระดับกรดยูริก การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น การลดน้ำหนัก การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น สามารถช่วยจัดการกับอาการของโรคเกาต์ได้เช่นกัน ในกรณีที่รุนแรง อาจจำเป็นต้องเจาะข้อหรือการผ่าตัดเพื่อเอาผลึกกรดยูริกออกและบรรเทาอาการปวด
สรุป
อาการของโรคเก๊าท์อาจรุนแรงและทำให้ร่างกายทรุดโทรมลงได้ แต่ด้วยการรักษาที่เหมาะสมและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตก็สามารถจัดการได้ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวกระตุ้นที่ทำให้อาการของโรคเกาต์แย่ลงเป็นขั้นตอนสำคัญในการควบคุมอาการ หากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรคเกาต์ สิ่งสำคัญคือต้องไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม