ปวดกระดูก ปวดข้อ อาการเริ่มต้นของโรคที่ไม่ควรมองข้าม รู้ทันก่อนสายเกินแก้

อาการปวดกระดูก
อาการปวดกระดูก อาจเกิดจากสิ่งต่อไปนี้
- โรคกระดูกพรุน
- Osteomyelitis
- Osteitis deformans
- โรคกระดูกพรุนไฟโบรซาซิสติกา
- กระดูกหัก
- รอยแตกที่ไม่ใช่สหภาพ
- การแตกหักของสหภาพด้วยความเจ็บปวดอย่างต่อเนื่อง
- การแพร่กระจายไปยังกระดูก
- เนื้องอกกระดูกหรือเนื้องอก

3 อาหารบำรุงกระดูกที่แพทย์แนะนำ
การเลือกทานอาหารเพื่อบำรุงกระดูก ถือเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุ ที่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นกระบวนการสร้างกระดูกก็ลดลง และเข้าสู่การเสื่อมสภาพเข้ามาแทนที่ การเลือกบริโภคสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรงของกระดูกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ขิง : สมุนไพรที่ถูกยกย่องว่าเป็นพืชที่ช่วยลดอาการปวดเข่าได้ดี ด้วยความร้อนจากขิงจะช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ช่วยชะลอความแก่ และยังมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบ เหมาะอย่างมากกับผู้มีอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดเข่า เป็นสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพที่ผู้สูงอายุนิยมดื่มเพื่อบำรุงร่างกายจากภายใน
ปลาทะเล : สารอาหารจากธรรมชาติใต้ทะเลอย่างปลาทะเลก็เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีที่เหมาะกับการเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกเช่นกัน เพราะปลาทะเลมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างกระดูกคือโอเมก้า 3 ที่เป็นกรดไขมันจำเป็นและเป็นแหล่งสร้างคอลลาเจน ช่วยเสริมสร้างกระดูกอ่อนที่ถูกทำลายให้แข็งแรง
งาดำ : งาดำเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และสังกะสี และมีการค้นพบว่า งาดำ ยังมีไฟเบอร์ชนิดหนึ่งที่เรียกว่า konjac mannan ซึ่งมีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ลดอาการปวดตามข้อ ตามเข่า และช่วยให้การเคลื่อนไหวง่ายขึ้น ป้องกันโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างมวลกระดูกให้กลับมาแข็งแรง ลดการเสื่อมสภาพให้ช้าลง นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยชะลอความแก่เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ

ปัจจุบันงาดำถูกนำมาปรับเปลี่ยนให้บริโภคง่ายขึ้น เพราะการกินแบบเมล็ดอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เนื่องจากเมื่อเคี้ยวไม่ละเอียด จะทำให้เกิดการตกค้างและสะสมในลำไส้ได้ง่าย จึงมีการนำงาดำมาสกัดเป็น น้ำมันงาดำ ที่ผ่านการสกัดแบบเย็นเพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารง่ายขึ้น เร็วขึ้น เมื่อทานเป็นประจำก็จะช่วยลดอาการปวดกระดูก ปวดข้อ ได้อย่างเห็นผล แต่ต้องอย่าลืมว่าต้องเลือกบริโภคในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย